ชาวบ้านสุราษฎร์ธานี เดินทางมาปิดล้อมขอความชัดเจนจากผู้ใหญ่ชาคฤช เรื่องที่ดินทำกิน
1 min readวันที่ 16 เมษายน 2566 ชาวบ้าน ราษฎรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผู้เดือดร้อนเรื่องที่ดินทำกิน เดินทางรวมตัวมาพบ “ผู้ได้รับการแต่งตั้ง” จากผู้ฟ้องคดีศาลปกครอง ซึ่งบัดนี้คดีถึงที่สุดแล้ว จากคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด และ ศาลปกครองสูงสุด พิพากษายืน เหมือนศาลปกครองนครศรีธรรมราช คือให้นำแปลงที่ดิน ซึ่ง ผู้ฟ้องคดีได้ฟ้องและศาลฯ ได้พิพากษาให้นำมาดำเนินการให้ชาวบ้านราษฎรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามคำฟ้องให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน ดังนั้นผลจากคำพิพากษาครบ 120 วัน เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566
และมาวันนี้เกินเวลาตามคำพิพากษา มาแล้วเกือบ 30 วัน หน่วยงานของรัฐ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ผู้ถูกฟ้องคดี ที่ 4 และ ธนารักษ์พื้นที่
สุราษฏร์ธานี ยังไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา จนเกิดความล่าช้าจนเกินควร ดังนั้นวันนี้ ผู้ฟ้องคดี/ผู้ประสงค์ขอที่ดินตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ซื่งได้เซ็นหนังสือแต่งตั้งให้นายชาคฤช ศรีภิรมย์มิตร ในฐานะผู้รับมอบอำนาจในการฟ้องคดีดังกล่าวฯ ที่ผ่านมาดำเนินการประสานกับ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4. และ ที่ 5 และ ผู้ฟ้องคดีที่เซ็นหนังสือแต่งตั้ง ให้นายชาคฤช ศรีภิรมย์มิตร เห็นว่าเลยเวลามาพอสมควรจึงรวมตัวกันเพื่อสอบถาม นายชาคริต ถึงขั้นตอนการดำเนินการต่อไป นายชาคริต ชี้แจงว่าตนเองได้ทำหนังสือสอบถามไปยัง
ผู้ว่าราชการ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในฐานะ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4. ไปแล้ว และกำหนดให้ ผู้ว่าราชการ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตอบถึงความคืบหน้าภายใน 30 วัน ตอนนี้ตนเอง (นายชาคฤช ศรีภิรมย์มิตร ในฐานะผู้รับมอบอำนาจในการฟ้องคดีดังกล่าวฯ ) รอคำตอบอยู่หากไม่มีคำตอบขั้นตอนต่อไปตนเองต้องทำหนังสือถึงอธิบดีศาลปกครองนครศรีธรรมราช เพื่อเรียกผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 และที่ 5 ไต่สวนถึงสาเหตุความล่าช้าที่ไม่ปฏิบัติตามคำพืพากษาศาลปกครองสูงสุดซึ่งคดีสิ้นสุดแล้ว และ ตนเองรับทราบมาว่าขณะนี้ธนารักษ์พื้นที่ไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาล โดยปฏิบัติย้อนแย้งกับคำพิพากษาศาล ตามหลักฐานและการดำเนินการสร้างเงื่อนไขกับผู้ซื้อที่ดินในส่วนคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด